สัญญาณที่น่ากลัว ในวันที่ ตำนาน เบอร์ 7 ต้องจากไป

 

ตำนาน เบอร์ 7 ต้องจากไป และในวันนี้นะครับเราจะพาพวกคุณทุกๆ คนย้อนกลับไปในช่วงเวลาหนึ่งในอดีตของตำนานเบอร์ 7 เท้าชั่งทอง เจ้าพ่อฟรีคิกปันลือโลก ชายที่เป็นทุกๆ อย่างให้กับทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด อย่าง เดวิด เบ็คแฮม และในวันนี้เราจะเล่าย้อนรำลึกถึงเหตุการณ์ที่เป็นเหมือนการบอกลาเป็นในๆ ของผู้ชายคนนี้กันนะครับก่อนอื่นขอเล่าท้าวความนิดนึงนะครับก่อนที่เหตุการณ์ที่ผมจะเล่าต่อไปนี้เป็นเหตุการณืที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ รองเท้าสตั๊ดบิน ระหว่างเดวิด เบ็คแฮมและเซอร์อเล็กฟอร์กูสันซึ่งหลายๆคนนั้นทราบกันดีอยู่แล้วว่าเหตุการณ์ในวันนั้นเกิอะไรขึ้นบ้าง

ตำนาน เบอร์ 7 เอาละครับมาพูดถึงเหตุการณ์ที่ผมจะขอเล่าต่อไปนี้ดีกว่าเหตูการณืนี้คงต้องย้อนความกลับไปในปี 2003 ซึ่งเป็นศึกฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกระหว่างทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านตอนรับการมาเยือนของทีมโครตเทพในยุคนั้นอย่างทีม ราชันชุดขาว เรอัลมาดริด ซึ่งนำทีมโดย เจ้าโล้นทองคำ โรนัลโด้ และนักเตะที่ได้รับการยกย่องว่าเก่งที่สุดในโลกอย่าง เซเนอดีน ซีดาน รวมทั้งดาวเตะเจ้าของฉายา เท้าซ้ายตีนระเบิด อย่างโรแบร์โต้ คาร์ลอส ซึ่งในเวลานั้นทีม เรอัลมาดริดนั้นกุมความได้เปรียบทีมอย่างแมนเซสเตอร์ ยูไนเต็ดอย่างมากเพราะด้วยทั้งมูลค่าของทีมต่างๆ ที่ประดับด้วยนักเตะระดับซุปเปอร์สตาร์แถวหน้าของโลกมากมายล้นทีมไหนจะเรื่องอขงศักดิ์ศรีความยิ่งที่ที่เป็นเจ้าของสถิติครอบเจ้ายุโรปมากที่สุดในโลกอีกด้วย

และในวันนั้นโจทย์ที่แมนเวสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องทำให้ได้ก็คือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะต้องเปิดบ้านที่สนามโอลแทฟฟอร์ดด้วยการยิงประตู เรอัลมาดริดอย่างน้อย 2ประตูขึ้นไปและห้ามเสียประตูให้กับทีมราชันชุดขาวอย่างเด็ดขาดเพราะเกมส์แรกที่เล่นที่สนามของทีมราชันชุดขาวนั้นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปด้วยผลต่างประตูได้เสีย 3 ประตูต่อ 1 เกมส์นี้แมนยูจึงไม่มีทางเลือกอะไรมากนักคือต้องเปิดเกมส์บุกเข้ายิงประตูทีมเยือนให้ได้เท่านั้น

และที่แปลกใจที่สุดสำหรับแฟนบอลปีศาจแดงในเวลานั้นเรียกได้ว่า งง เป็นไก่ตาแตกกันเลยทีเดียวเพราะท่านเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ดันไม่ส่งเดวิด เบ็คแฮมลงสนามซึ่งเป็นการส่งสัญญาณบางอย่างในทางลบและยิ่งตอกย้ำความสัมพันธ์ระหว่างตัวของเบ็คแฮมเองและ อเล็ก ฟอร์กูสัน ให้ยิ่งทวีคูณให้เข้าไปอีก โดยคนที่ถูกเลือกลงสนามแทรเจ้าตัวก็คือ กุนซือใหญ่ในเวลานี้อย่าง โอเล่ย์ กุนนาร์ โซชา นั่นเอง

และในเกมส์นี้เองแมนยูก็โดนความยิ่งใหญ่ของเจ้าโลนทองคำ โรนัลโด้เล่นงานซะน่วมเพราะโรนัลโด้ตะบันแฮตทริกใส่แมนยูไนเต็ดทั้งการเลี้ยงเข้าไปยิง แท๊ปอินเข้าจากลูกเปิดหรือจะเป็นลูกยิงไกลจนเวลาผ่านมาถึงนาทีที่ 60 ราชันชุดขาวนำอยู่ 3-2 และเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงในนาทีที่ 63 เดวิด เบ็คแฮม ถูกส่งลงสนามมาแทนที่ เวรอน นั่นเองทำให้เกมส์รุกของปีศาจแดงดุดันขึ้นมาในทันทีและเจ้าตัวเองก็ยิงฟรีคิกสุดสวยช่วยให้ทีมตามตีเสมอได้เป็น 3-3 ก่อนที่จะมาซัดลูกยิงซ้ำหน้าประตูทำให้ทีมพลิกขึ้นนำ 4-3

แต่นั้นก็ไม่เพียงพอต่อการเข้ารอบจึงทำให้แมนยูไนเต็จ ตกรอบไปด้วยกฏประตุทีมเยือนนั้นเองและสัญญาณเตือนบางอย่างก็มาถึงเมื่อจบเกมส์ เบคแฮมได้เดินปรบมือทั่วสนามและโบกมือให้กับแฟนบอลครบทั้ง4ด้านหลังจากนั้นไม่นาน ในวันที่ 17 มิถุนายน 2003 แมนยูได้ทำการขายเดวิด เบ็คแฮมออกจากทีมไปอยู่กับทีมราชันชุดขาวในราคา 25 ล้านปอนด์นั้นเองถือเป็นการปิด ตำนานเบอร์ 7 ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล

o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o

Zlatan Ibrahimović เรียกข้าว่าพระเจ้า

Credit by casinocafe88 และโปรโมชั่นดีๆจาก บาคาร่าฟรีเครดิต2021