ริวัลโด้ มีชื่อจริงว่า Rivaldo วีโต เปเรย์ร่า ซึ่งเค้าเกิดเมื่อวันที่ 19 เมษายน 1972 ณ เมือง paulista ประเทศบราซิล ซึ่งริวัลโด้เองมีส่วนสำคัญอย่างมากในการพาทัพแซมบ้าบราซิลครองความยิ่งใหญ่ในศึกฟุตบอลโลกปี 2002 ด้วยการคว้าแชมป์โลกมาให้แก่ชาวประเทศบราซิลได้อย่างยิ่งใหญ่สุดๆ อีกทั้งตัวของเค้าเองยังได้รับรางวัลส่วนตัวอื่นๆอีกมากมายและในวันนี้เราจะมาทำความรู้จักเจ้าของฉายา “ ซ้ายทองคำ ” กันครับ
ริวัลโด้แสดงให้เห็นถึงความเป็นจีเนียสในด้านของเกมส์กีฬาฟุตบอลให้ทั้งประเทศบราซิลได้ประจักแก่สายตาครั้งแรกโดยเค้าอยู่ในทีมสโมสรที่ชื่อว่าพัลไมรัสซึ่งในปี 1994นั้น เจ้าซ้ายทองคำ ก็สามารถพาทีมได้แชมปืลีคและตัวเค้าเองยังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลอีกด้วยและภายหลังจากนั้นริวัลโด้ก้ได้ย้ายออกจากประเทศบ้านเกิดและมุ่งหน้าเดินตามความฝันในวัยเด็กด้วยการย้ายทีมมาอยู่กับ สโมสรฟุตบอล ลา คอรุนญ่าแห่งประเทศสเปนนั้นเองและในปี 1997 ริวัลโด้ได้พาทีมของเค้าจบด้วยอันดับที่ดีมากๆในปีนั้นคืออันดับ 3 ในศึกฟุตบอลลาลีก้าสเปนและผลงานส่วนตัวของเค้านั้นก็ถือว่าเฉดฉายเอามากๆด้วยการทำ 21 ประตูจากการลงสนามทั้งหมด 41 นัด ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ยอดเยี่ยมเอามากๆสำหรับนักเตะที่มาจากต่างประเทศอย่างเค้า
และในปีถัดมาในฤดูกาล 1997/1998 ริวัลโด้ก็ได้ย้ายมาร่วมทีมกับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกในเวลานั้นอย่างสโมสร บาเซโลน่า และนี่ก็คือที่ๆ เค้าเฉิดฉายมากที่สุดเพราะตัวเค้าพาทีมคว้าแชมป์ลา ลีก้าสเปนและศึกโคปา เดลเรย์ ด้วยผลงานการยิงประตูไปทั้งสิ้น 19 ประตูและในปีต้อมาปี 1999 ฟอร์มของเค้านั้นเรียกได้ว่าฉุดไม่อยู่ร้อนแรงแบบสุดๆเค้าได้สถาปณาตัวเองขึ้นเป็นนักเตะหมายเลข 1 ของโลกอย่างเต็มตัวด้วยการคว้ารางวัลส่วนตัวต่างๆอย่างมากกมายทั้งรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของฟีฟ่าและนักเตะยอดเยี่ยมแห่งเวทียุโรปซึ่งทั้งสองรางวัลนั้นเค้าได้ภายในปีเดียวกัน
และหลังจากนั้นประมาน 3 ปี ในศึกฟุตบอลโลก 2002 เค้าพาทีมชาติบราซิลคว้ารางวัลแชมป์โลกมาครองได้อีกด้วยซึ่งต้องบอกเลยว่าในตอนนั้นทีมชาติบราซิลชุดนั้นแข็งแกร่งเอามากๆซึ่งมันไม่ได้มีแค่ ริวัลโด้คนเดียวเท่านั้นทีมชาติบราซิลชุดนั้นยังมีทั้ง โรนัลโด้และโรนันดินโญ่ หรือที่ทุกๆคนรู้จักกันดีในนาม 3R นั่นเองและในปี 2003 เค้าย้ายทีมาอยู่กับทีม เอซี มิลาน ในประเทศอิตาลี่และก็สามารถพาทีมได้แชมป์ใหญ่สุดของยุโรปอย่างยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีคตั้งแต่ย้ายเข้ามาร่วมทีมแค่ปีแรกเท่านั้นและคว้าแชมป์โคปปา อิตาเลียอีก1สมัย
และด้วยอายุที่มากขึ้นเค้าก็ได้ย้ายทีมมากๆมายในช่วงปลายของการค้าแข็งไม่ว่าจะเป็นสโมสรในประเทศกรีซหรือประเทศอซเบกิสถานก่อนที่จะกลับมายังประเทศที่ปลุกปั้นเค้ามาอย่างบราซิลกับสโมสรชั้นนำอย่าง เซาเปาโลและสโมสรสุดท้ายอย่าง โมจิ มิริมและที่นี่นี่เองทำให้เค้าได้ทำตามความฝันที่เป็นจริงที่เค้าตั้งใจเพราะเค้าได้มาร่วมเล่นฟุตบอลกับลูกชายของเค้าด้วย
o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o
Zlatan Ibrahimović เรียกข้าว่าพระเจ้า
Credit by casinocafe88 และโปรโมชั่นดีๆจาก บาคาร่าฟรีเครดิต2021
o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o