“ เอล กลาซิโก้ ” ศึกแห่งศักดิ์ศรี

เอล กลาซิโก้

เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยได้ยินนิยามของคำว่า “ เอล กลาซิโก้ ” คือการเผชิญหน้ากันระหว่าง เรอัล มาดริดกับบาร์เซโลน่า สองสุดยอดมหาอำนาจฟุตบอลแห่งประเทศสเปน ทว่าเบื้องหลังเรื่องราวการขับเคี่ยวกันบนผืนหญ้าใน 90 นาทีนั้น นี่คือ การแข่งขันฟุตบอล ที่มีมนต์ เสน่ห์และเต็มไปด้วยความแตกต่างอย่างชิ้นเชิง ทั้งด้านประวัติศาสตร์ ด้านเชื้อชาติ ด้านภาษา ด้านวัฒนธรรม แม้กระทั้งด้านของการเมือง

เอล กลาซิโก้
เอล กลาซิโก้

ขอเล่าคร่าวๆนะครับปมเหตุแห่งความขัดแย้งนั้นเริ่มขึ้นตั้งแต่สมัยราชรัฐกาตาลุนญ่า ที่มีบาร์เซโลน่า เป็นเมืองหลวงหลังจากถูกแปรสภาพให้เป็นแคว้นหนึ่งที่ขึ้นโดยตรงกับประเทศสเปน ทำให้แคว้นกาตาลุนญ่า เกิดความคิดต้องการแบ่งแยกดินแดนขึ้นกระทั่งมาถึงในช่วง พ.ศ 1899 สิ่งที่ยิ่งใหญ่ก็ถือกำเนินขึ้นนั่นก้คือ สโมสรบาร์เซโลน่า ได้ทำการก่อตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นตัวแทนของชาวกาตาลัน และหลังจากนั่นอีก 3 ปีให้หลัง สโมสรเรอัล มาดริด ได้ถูกก่อตั้งตามหลังมา เพื่อเป็นตัวแทนของชาวเมืองหลวง ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องมือในการต่อสู้ทางเชื้อชาติ แต่มาในรูปแบบของเกมกีฬาการแข่งขัน

นายพล ฟรานซิสโก้ ฟรังโก้
นายพล ฟรานซิสโก้ ฟรังโก้

และแล้วเวลาได้เดินทางมาถึงช่วงยุคปี 30 รอยร้าวนั้นได้ถูกฝังลึกลงในประวัติศาสตร์ของทั้งสองทีมอย่างบาร์เซโลน่าและเรอัล มาดริด เมื่อประเทศสเปนได้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น ซึ่งในเวลานั้นเองผู้ที่มีอำนาจอย่าง “ นายพล ฟรานซิสโก้ ฟรังโก้ ” ได้ทำการเชื่อมโยงเรื่องของการเมืองมาเกี่ยวพันกับฟุตบอลในเวลานั้น และนอกจากการรวบรวมอำนาจแล้ว นายพลฟรังโก้ ยังสุมไฟให้ทวีคูณของการเจอกันของทั้งสองสโมสรให้ทวีความร้อนแรงและเดือดดาลมากยิ่งขึ้น

เริ่มต้นขึ้นจากการที่ท่านนายพลออกคำสั่งไปยังสโมสรบาร์เซโลน่า ให้ทำการเปลี่ยนชื่อสโมสร จากภาษากาตาลันหรือภาษาท้องถิ่น ให้มาเป็นภาษาสเปนตามที่เมืองหลวงใช้และตามด้วยสังหาร “ นาย โจเซป ซุนโยล ” ประธานสโมสรบาร์เซโลน่าในเวลานั้น ก่อนที่จะใช้อำนาจที่มีและอิทธิพลภายนอกสนาม จนทำให้เรอัล มาดริด สามารถเอาชนะบาร์เซโลน่าไปได้ด้วยสกอร์ม 11-1 ในศึกโกปา เดล เรย์ ในปี 1943 และที่เจ็บแสบกว่านั้นคือการปิดท้ายด้วยการแทรกแซงการซื้อขายตัวผู้เล่นที่ถือว่าเป็นสุดยอดในเวลานั้นอย่าง “ อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ ”มาร่วมทีมเรอัล มาดริด จนสามารถก้าวขึ้นเป็นตำนานของเรอัล

มาดริดนั่นก็คือบันทึกของหน้าประวัติศาสตร์ลูกหนังของประเทศสเปน และแม้ว่าในปัจจุบัน ความดุเดือดเดือดาลจากการแทรกแซงการเมืองจะเจือจางลงไปแล้ว แต่สิ่งที่ยังคงหลงเหลืออยู่ก็คือ “ เอล กลาซิโก้ ” ก็ยังคงเป็นการแข่งขันที่เปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังและมนต์ เสน่ห์ที่คนทั้งโลกจับตามองจวบจนปัจจุบันนี้

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

credit omarungalodge.co/

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *